ก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานจะมีภาวะดื้อต่ออินซูลินเกิดขึ้นก่อน ซึ่งจะสามารถนำไปสู่โรคเบาหวานประเภท 2 ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองได้

น้ำตาลส่วนเกินสร้างขึ้นในกระแสเลือดนำไปสู่โรคเบาหวาน prediabetes และก่อให้เกิดความผิดปกติของสุขภาพอื่น ๆ ที่ร้ายแรงโรคหัวใจโรคหลอดเลือดสมอง ตาบอด ไตวาย และ การตัดขา

มีปัจจัยเสี่ยง2อย่างของโรคนี้ คือน้ำหนักส่วนเกินและการไม่ออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันส่วนเกินรอบเอวเป็นสาเหตุหลักของการดื้อต่ออินซูลินไขมันบวบมีส่วนร่วมในการพัฒนาเรื้อรังหรือยาวนานการอักเสบในร่างกาย การอักเสบเรื้อรังอาจทำให้ร่างกายเกิดความเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป

สาเหตุอื่น ๆ ของความต้านทานต่ออินซูลินอาจรวมถึงเชื้อชาติ; โรคบางชนิด ฮอร์โมน; การใช้สเตียรอยด์ ยาบางชนิด อายุที่มากขึ้น ปัญหาการนอนหลับโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ และการสูบบุหรี่

ปัจจัยเสี่ยงสำหรับ prediabetes - นอกเหนือจากการมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนหรือเป็น 45 หรืออายุมากกว่า -

รวมถึงต่อไปนี้:

•ไม่ออกกำลังกาย

•มีพ่อแม่หรือพี่น้องร่วมกับโรคเบาหวาน

•มีภูมิหลังครอบครัวที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน อเมริกันพื้นเมือง อะแลสกา อเมริกันอินเดียน เอเชียอเมริกัน ลาตินอเมริกา หรือ ชาวหมู่เกาะแปซิฟิคชาวอเมริกัน

•ให้กำเนิดทารกที่มีน้ำหนักมากกว่า 9 ปอนด์

•ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานในขณะตั้งครรภ์ซึ่งเป็นโรคเบาหวานที่พัฒนาเฉพาะในระหว่างตั้งครรภ์

•มีความดันโลหิตสูง 140/90 mmHg หรือสูงกว่าหรือได้รับการรักษาความดันโลหิตสูง ระดับ HDL cholesterol ต่ำกว่า 35 mg / dL หรือระดับไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 250 mg / dL

•มีภาวะ polycystic ovary syndrome (PCOS)

สามารถลดความเสี่ยงโดย

กินอาหารเพื่อสุขภาพและเข้าถึงและรักษาน้ำหนัก

•เพิ่มการออกกำลังกาย

•ห้ามสูบบุหรี่ การรับประทานยาเช่น metformin เป็นการลดการผลิตและการปลดปล่อยกลูโคสจากตับ ยังสามารถช่วยลดน้ำหนัก สามารถลด LDL ลดระดับไขมันในเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมลำไส้ใหญ่ปอดตับอ่อนและมะเร็งต่อมลูกหมากได้

Cr.CosmeticConsultant24 โดย Dr.Pat American Board AntiAging Medicine, American Aesthetic Medicine