ในประเทศแถบร้อนอบอุ่น หากคนเรามี เหงื่อออกเยอะ เกินควร เหงื่อ ก็อาจกลายเป็นปัญหาให้หนักใจได้

อาหารบางชนิดเกี่ยวกับทำให้เกิดกลิ่นตัวมากขึ้นได้แก่ ประเภทคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ ชอคโกแลต หากละเว้นสิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยลดกลิ่นตัวได้

ภาวะบางอย่างในทางการแพทย์ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ, โรคพาร์คินสันหรือโรคอ้วนทำให้เหงื่อออกมากขึ้น

แต่บางคนต่อมเหงื่อผลิต เหงื่อออกมาก กว่าคนปกติทั่วไปหลายเท่า อย่างนี้ถือว่าผิดปกติ ในทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) อาจเป็นแบบเหงื่อออกมากทั่วตัว ถ้าเป็นการผ่าตัดก็จะเป็นการเลาะเอาต่อมเหงื่อออก หรือไม่ก็ตัดเส้นประสาทที่มาเลี้ยงต่อมเหงื่อเพื่อให้การสั่งงานลดลง

สมัยนี้การผ่าตัดไม่นิยมทำกันแล้ว เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมาได้ เช่น การติดเชื้อ, ภาวะเหงื่อออกมากชดเชย เป็นต้น ส่วนเรื่องแผลเป็นเนื่องจากเป็นการผ่าตัดก็ย่อมหนีไม่พ้นที่จะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ได้

ปัจจุบันแพทย์จึงหันมารักษาโดยไม่ผ่าตัดเป็นหลัก เช่น การรับประทานยาเพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อ, การใช้ยาทา

ตั้งแต่ปี1980 ได้มีการคิดค้นการฉีดโบท๊อกทางการแพทย์ได้รับการอนุมัติจาก FDA หรือองค์กรอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับความงาม โบท๊อกช่วยลดริ้วรอยที่แสดงอารมณ์บนใบหน้า เช่น เส้นที่หน้าผาก ตีนกา ร่องแก้ม หรือเส้ยรอยยิ้ม และฉีดตรงคิ้วและตาเพื่อให้ดูอ่อนวัยกว่าเดิม ฉีด botox เพื่อปรับรูปหน้า โดยฉีดตรงแนวขากรรไกร และแก้ม เพื่อให้ใบหน้าเรียวแบบวีเชฟ

เพื่อลดริ้วรอยและร่องลึก นอกจากนี้ยังลดอาการปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงและอาการปวดศีรษะ หนังตากระตุก blepharospasm, ตาเหล่ กล้ามเนื้ออ่อนแรง

ในปี 1990 การฉีดโบท๊อกบริเวณรักแร้ช่วยลดเหงื่อ Hyperhidrosis ได้รับการอนุมัติจาก FDA

ขั้นตอนเป็นอย่างไร? เจ็บรึเปล่า?

เริ่มต้นจะใช้ยาชาทาบริเวณผิวหนังรักแร้ ใช้เข็มเล็ก ๆ ฉีดรอบ ๆ ต่อมเหงื่อใต้ผิวหนัง  โดยสารโบทูลินุ่มท๊อกซินนี้จะบล็อกเครื่องส่งสัญญาณที่ส่งจากระบบประสาทไปสู่ต่อมเหงื่อเพื่อลดการไหลของเหงื่อที่รุนแรง

การฉีดโบท๊อกทำได้หลายส่วนเช่น บริเวณรักแร้ บริเวณขาหนีบมือและเท้า แต่จากสถิติการรายงานพบการปวดเมื่อได้จากการฉีดที่ฝ่ามือและเท้า

ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการฉีดยา

การขับเหงื่อมากเกินไปจะลดลงทันทีภายในหนึ่งสัปดาห์ การเปลี่ยนแปลงจะสังเกตได้ 80-90% การรักษาเป็นแบบชั่วคราว ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยาจะอยู่  ประมาณ 6.7 เดือนในการควบคุมอาการ ในบางพบอาจอยู่ได้นานถึง 10 เดือน

ห้ามฉีดยานี้ในคนไข้กลุ่มที่มีโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหรือภาวะเส้นประสาทเช่น ALS , myasthenia gravis หรือ Lambert-Eaton syndrome เนื่องจากคุณอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงเช่นการกลืนลำบากและหายใจลำบาก

Cr.Image orlandoskinsolution.com

Cr CosmeticConsultant24 By Dr.Pat American Board AntiAging Medicine, American Aesthetic Medicine