คุณยังไม่มีสินค้าในรถเข็น

Oct 30 ,2017 Writen By: Store Owner

ฝ้ารักษายังไงก็ไม่หายดังนั้นเรามารู้จักสาเหตุของฝ้าที่คนไทยเป็นเยอะมากกัน

ฝ้ารักษาไม่หาย แม้จะมีเครื่องมือหรือยาผลิตภัณฑ์ต่างๆขึ้นมา ก็ทำได้เพียงแค่รักษาให้จางลงเท่านั้น ดังนั้นเรามารู้สาเหตุของฝ้ากันเพราะการรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกันนะคะ

ปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า ได้แก่

1. แสงแดด เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็น แสงยูวีเอ (UVA, Ultraviolet A) แสงยูวีบี (UVB, Ultraviolet B) และแสง ที่ตามองเห็น (Visible light) โดยสังเกตได้จากบริเวณที่เกิดฝ้านั้น มักเป็นบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดดมากกว่าบริเวณอื่น

2. ฮอร์โมนเพศ ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น เช่น ในภาวะตั้ง ครรภ์ วัยหมดประจำเดือนที่ต้องทานยาฮอร์โมนการทานยาคุมกำเนิด หรือ การใช้เครื่องสำอางที่มีฮอร์โมน หรือสารสกัดจากรก (Placental extract) มักพบผู้เป็นฝ้าในภาวะดังกล่าวได้บ่อย

3. พันธุกรรม เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง มีรายงานว่า พบเป็นฝ้าในครอบครัวได้ถึงเกือบ 50 %

4. ภาวะทุพโภชนาการ ( ได้อาหารไม่ถูกต้อง อาจมาก หรือ น้อยเกินไป) อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากพบผื่นแบบฝ้าในผู้ที่มี การทำงานของตับผิดปกติ และผู้ที่ขาดวิตามินบี 12 เป็นต้น

5. เครื่องสำอาง โดยพบว่าสาเหตุของการเกิดฝ้าจากการใช้เครื่อง สำอางนั้น เกิดจากการแพ้เครื่องสำอางเป็นส่วนใหญ่ซึ่งก่อให้เกิดการระคายต่อผิว เกิดผิวหนังอักเสบ และรอยดำคล้ายฝ้าตามมา

มีรายงานจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า มากกว่า 95% ของผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว มีผื่นผิว หนังอักเสบเกิดขึ้น หลังจากทำการทดสอบสารแพ้ที่ผิวหนัง (Patch test) จึงเป็นการยืนยันเพิ่มเติมว่า การแพ้สารบางอย่างในเครื่องสำอาง สามารถก่อให้เกิดรอยคล้ำคล้ายฝ้าได้

6. ยาบางชนิด เช่น ยากันชักกลุ่มฟีไนโทอิน (Phenytoin-related anticonvulsants) และ กลุ่มยาที่มีปฏิกิริยาไวต่อแสง(Phototoxic drugs) เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมียาทาที่อาจก่อให้เกิดจุดสีดำอมเทาคล้ายฝ้า (Ochronosis) ใต้ผิวหนังได้เช่น ยากลุ่มไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ดังนั้น

Cr.CosmeticConsultant24  By Dr.Pat American Board AntiAging Medicine,American Aesthetic Medicine

 

Last Update 2017-10-30 11:47:09
Read 405 Times
Published in
expand_less